อาการปวดเรื้อรัง
อาการปวดเรื้อรังเป็นอาการปวดแบบถาวรหรือเกิดขึ้นนานกว่า 3 เดือนนับตั้งแต่เริ่มมีอาการ หรือ อาการปวดที่เกินระยะเวลาที่คาดหวังการรักษาไว้ โดยอาการปวดสามารถอยู่ได้นานหลังจากได้รับบาดเจ็บหรือความเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นก่อนหายไปแล้ว อาการปวดเรื้อรังสามารถอยู่ได้นานหลายเดือนจนถึงหลายปี ซึ่งส่งผลเสียต่อความเป็นอยู่ที่ดีของบุคคลและความสามารถในการทำกิจกรรมประจำวัน
พยาธิสรีรวิทยา
ภายใต้การกระตุ้นอย่างต่อเนื่อง จากการส่งสัญญาณความเจ็บปวดไปยังดอร์ซัลฮอร์น อาจทำให้เกิดอาการปวด เรียกปรากฎการณ์นี้ว่า wind-up ตัวกระตุ้นที่เปลี่ยนแปลงนี้อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าสำหรับสัญญาณความเจ็บปวดที่จะส่งผ่าน ชนิดของเส้นใยประสาทที่เชื่อว่าสร้างสัญญาณความเจ็บปวดคือ C-fiber เนื่องจากมีการนำไฟฟ้าที่ช้าและก่อให้เกิดความรู้สึกเจ็บปวดที่คงอยู่เป็นเวลานาน ในอาการปวดเรื้อรังกระบวนการนี้ยากที่จะย้อนกลับหรือหยุดทันทีที่เกิดขึ้น ในบางกรณีอาการปวดเรื้อรังอาจเกิดจากปัจจัยทางพันธุกรรมซึ่งรบกวนการสร้างความแตกต่างของเส้นประสาท ทำให้เกิดระดับความเจ็บปวดที่ลดลงอย่างถาวร
ในผู้ที่มีอาการปวดเรื้อรัง EEG จะแสดงให้เห็นถึงการทำงานของสมองที่มีการเปลี่ยนแปลง, การเปลี่ยนแปลงทางระบบประสาทที่เกิดจากความเจ็บปวด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกิจกรรมเบต้าสัมพันธ์ (เมื่อเทียบกับส่วนที่เหลือของสมอง) เพิ่มขึ้น, กิจกรรมอัลฟาสัมพันธ์ลดลง และกิจกรรมทีต้าลดลง
การจัดการโดปามีนที่ผิดปกติในสมอง อาจทำหน้าที่เป็นกลไกที่ใช้ร่วมกันระหว่างอาการปวดเรื้อรัง, นอนไม่หลับ และโรคซึมเศร้า พบว่า Astrocytes, microglia และ satellite glial cell มีความผิดปกติในผู้ที่มีอาการปวดเรื้อรัง โดยมีการเพิ่มกิจกรรมของ microglia, การเปลี่ยนแปลงของเครือข่าย microglial และการเพิ่มการผลิตของ chemokines และ cytokines โดย microglia ซึ่งอาจทำให้อาการปวดเรื้อรังรุนแรงขึ้น Astrocytes ถูกพบว่ามีการสูญเสียความสามารถในการควบคุมความตื่นเต้นของเซลล์ประสาท, มีการเพิ่มการทำงานของระบบประสาทที่เกิดขึ้นเองในวงจรความเจ็บปวด
สาเหตุ
อาการปวดเรื้อรังมีได้จากหลายสาเหตุ โดยสถาบันเพื่อการปรับปรุงระบบคลินิก ได้แบ่งอาการปวดเรื้อรังออกเป็น 4 ประเภทหลัก คือ
1. การปวดประสาท
2. การปวดกล้ามเนื้อ
3. การปวดอักเสบ
4. การปวดจากการใช้งาน หรือจากการกดทับ
การวินิจฉัยโรค
ยังไม่มีวิธีวัดความเจ็บปวดอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการปวดเรื้อรังเท่านั้นที่สามารถให้คำอธิบายว่าเขาหรือเธอรู้สึกเจ็บปวดแค่ไหน แพทย์จะทำการซักประวัติว่ามีอาการปวดอยู่ที่ใด, มีอาการปวดมานานแค่ไหน และไม่ว่าจะปวดชัดเจน ปวดตื้อ หรือปวดตลอด หรือปวดๆหายๆ บางครั้งผู้ป่วยจะถูกขอให้ให้คะแนนว่าอาการปวดแย่เพียงใดโดยใช้เกณฑ์ตัวเลขและให้รายละเอียดเพิ่มเติม โดยแพทย์จะทำการตรวจร่างกายและอาจสั่งการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม รวมถึง
● การทดสอบในห้องปฏิบัติการเพื่อวิเคราะห์เลือด, ปัสสาวะและ/หรือของเหลวจากไขสันหลังและสมอง
● การทดสอบกล้ามเนื้อและกระดูก หรือระบบประสาทเพื่อประเมินปฏิกิริยาตอบสนองทางด้านความรู้สึก, การทรงตัวและสหสัมพันธ์
● การทดสอบด้วยการถ่ายภาพ เช่น
○ การถ่ายภาพด้วยคลื่นสนามแม่เหล็ก (MRI) เพื่อรับการสแกนของสมองเส้นประสาทไขสันหลังและโครงสร้างอื่นๆ
○ การเอ็กซ์เรย์ เพื่อให้ได้ภาพของกระดูก, ข้อต่อ และโครงสร้างอื่นๆ
● ขั้นตอนการวินิจฉัยด้วยไฟฟ้า เช่น
○ การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เพื่อทดสอบกิจกรรมของกล้ามเนื้อ
○ การศึกษาการนำกระแสประสาท เพื่อบันทึกว่าเส้นประสาทกำลังทำงานอย่างไร
การรักษา
การรักษาอาการปวดเรื้อรังนั้นมีความหลากหลายเท่ากับสาเหตุ ตั้งแต่ยาที่ต้องสั่งโดยทั่วไปและยาตามใบสั่งแพทย์ไปจนถึงเทคนิคทางจิตใจ/ร่างกาย รวมไปถึงการฝังเข็ม
มีวิธีการมากมายในการรักษา แต่เมื่อพูดถึงการรักษาอาการปวดเรื้อรังไม่มีเทคนิคใดที่รับประกันว่าจะช่วยบรรเทาอาการปวดได้อย่างสมบูรณ์ บรรเทาอาการได้โดยใช้ตัวเลือกการรักษารวมกัน ดังนี้
● การบำบัดด้วยยา
● การคลายจุดเจ็บในกล้ามเนื้อด้วยการฉีดยาชา
● การผ่าตัดใส่อุปกรณ์ แบ่งออกเป็น 2 ชนิดหลักเพื่อช่วยควบคุมความเจ็บปวด:
○ Intrathecal Drug Delivery
○ Spinal Cord Stimulation Implants
● การกระตุ้นเส้นประสาททางผิวหนังด้วยไฟฟ้า
● การบำบัดด้วยพลังงานชีวภาพ
● กายภาพบำบัด